adsense

ปัญหาลูกติดพ่อ


ตอนนี้ลูกอายุ 3 ขวบ 4 เดือนแล้วคะ เมื่อก่นเค้าติดแม่มากเลยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว น่าน้อยใจเชียวล่ะ เปลี่ยนมาติดพ่อแทน อ้อ! เป็นลูกสาวนะคะ เค้าจะชอบหอมแก้มพ่อก่อนออกจากบ้าน พอตอนเย็นๆ ก็ร้องหาพ่อ ให้พ่อกอดแล้วสามีจะกลับมาค่อนข้างดึกค่ะ เค้าก็อยู่รอนะคะ บอกให้ไปนอนก็ไม่ยอม เวลานอนก็ขอนอนใกล้ๆ พ่อของเขา ที่จริงก็ไม่มีอะไรน่าวิตกนะคะ เพียงแต่กังวลเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ คือ นี่เป็นลักษณะปกติของเด็กวัย 3 ขวบทั่วไปใช่ไหมคะ โดยเฉพาะลูกสาว แล้วต่อไปจะมีผลทำให้เค้าสนใจเรื่องเพศเร็วขึ้นหรือไม่คะแล้วถ้าโตขึ้นเค้าเลิกติดพ่อ จะทำให้เค้าไม่ค่อยอยากเล่นกับพ่อของเขาเหมือนกันหรือไม่ รวมทั้งตอนนี้สามีก็กังวลเหมือนกัน เค้ากลัวว่าลูกจะติดเค้ามากเกินไปค่ะ ขอคำตอบทีนะคะ

“จริงๆ แล้ว การที่เด็กติดพ่อมาก และคุณแม่มีความกังวลว่า จะมีผลทำให้ลูกมีความสนใจเรื่องเพศตรงข้ามเร็วไปหรือไม่ ตรงนี้ขอตอบว่าคงไม่มีผลค่ะ เพราะจากลักษณะของคุณพ่อคุณแม่ที่แตกต่างกัน คือคุณแม่มีหน้าที่คอยเลี้ยงดูลูก ทำงานบ้าน ดูแลบ้าน ส่วนคุณพ่อเมื่อกลับมา ก็อยากเล่นกับลูก ทำให้เค้าสนุก มีเพื่อนเล่น ยิ่งถ้าคุณพ่อบางคนมีลักษณะเหมือนคุณแม่ คือทั้งเล่นกับลูก ช่วยคุณแม่ป้อนข้าวลูก ป้อนนมลูก อย่างนี้ไม่แปลกที่ลูกจะติดคุณพ่อมากกว่า แต่คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ เพราะเมื่อลูกโตขึ้น เขาได้พบสังคมใหม่ พบเพื่อนใหม่ๆ อาการติดพ่อก็จะลดน้อยลง เพียงแต่เขาอาจจะมองคุณพ่อของเขาเป็นแบบอย่าง น่าเอาตาม

ขณะเดียวกัน ที่คุณแม่ถามมาว่า แล้ววันหนึ่งเขาจะเกิดไม่ติดพ่อขึ้นมา นั้นจะทำให้เขาไม่อยากเข้าใกล้หรือเล่นกับพ่อของเขาหรือไม่ อันนี้ก็เป็นความกังวลใจอย่างหนึ่ง คิดว่าคงกังวลเกินไปเพราะจริงๆ แล้ว แม้เขาจะโตขึ้น และไม่ค่อยติดพ่อหรือแม่เหมือนแต่ก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ความรักที่เขามีให้คุณพ่อคุณแม่จะลดน้อยลงนี่คะ เขาจะได้เรียนรู้อีกหลายอย่าง ซึ่งในนั้นก็จะรวมไปถึงการเข้าใจบทบาทหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ว่า คุณพ่อมีหน้าทำงาน หาเงินมาจุนเจือครอบครัว ส่วนคุณแม่มีหน้าที่ช่วยดูแลหนู ไปรับไปส่งหนูเวลาไปโรงเรียน ทำอาหารให้หนูทาน พาหนูไปเที่ยว สอนโน่นนี่หนู สอนการบ้านหนู เหล่านี้เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้และเข้าใจเองค่ะ
อย่างไรก็ดี หมอว่าการที่มีคุณช่วยดูแลลูกเป็นเรื่องที่ดีนะคะ คุณแม่จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง จะติดไปถึงเมื่อไรคงบอกไม่ได้หรอกค่ะ อย่างเด็กวัยขวบกว่าจะติดหนึบ เพราะมีอาการกลัว จะพลัดพรากจากคนรัก แต่พอโตขึ้นเขาจะเรียนรู้เอง อย่างไรแล้วลูกเค้าก็ยังรักคุณแม่ และก็คุณพ่อเหมือนเดิมนั่นล่ะค่ะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะ”

เด็กออกหัดเช็ดตัวได้ไหม

ลูกมีผื่นออกตอนไม่สบายเรียกว่าออกหัดหรือเปล่าคะ แถวบ้านเขาไม่ให้อาบน้ำและไม่ให้เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ด แต่ลูกสาวเป็นคนขี้ร้อนมาก เหงื่อออกเต็มตัวเลยกลัวเขาจะตัวเหนียว เลยเอาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ด เช็ดแล้วจะทำให้ผื่นออกไม่หมดจริงหรือป่าว

เด็กที่ได้รับวัคซีนกันหัด มักไม่ค่อยจะออกหัด แต่อาจจะเป็นไวรัสชนิดอื่นๆ ที่ออกผื่นเช่นกัน ดังนั้นถ้าลูกมีเหงื่อมากก็เช็ดตัวได้ค่ะอย่าใช้น้ำร้อน เพราะผื่นจะยิ่งแดงมากขึ้น ใช้ผ้าพออุ่นๆหน่อยก็พอค่ะ อย่างไรก็ตามผื่นจะยุบตามเวลาของโรคค่ะ

สอนลูกอ่านหนังสือ

เรารู้กันดีว่าหนังสือนั้นคือโลกที่กว้างใหญ่ คือแหล่งความรู้ที่ดีเยี่ยมที่สุด แต่เรามักจะไม่ปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านกันอย่างจริงจังเท่าใดนัก

นอกจากอ่านนิทานกล่อมลูกก่อนนอนแล้วหรือสอนให้ลูกๆ หัดอ่านนิทานตอนหัดเข้าเรียนเขียนอ่านนั้นยังไม่พอ พ่อแม่ต้องซื้อหนังสือติดบ้านไว้เสมอ เลือกที่หลากหลายแนวที่เหมาะตามวัยของลูกเพื่อให้ลูกได้มีนิสัยรักการอ่านตามธรรมชาติ เพราะหนังสือมีอยู่ที่บ้านเสมอลูกก็จะหยิบหนังสือมาอ่าน เราต้องจำกัดเวลาลูกอย่าให้ลูกได้มีชั่วโมงของการอ่านหนังสือทุกวันแม้ว่าจะเป็นการ์ตูนบ้าง หนังสืออ่านเล่นบ้างก็ตาม
ตัวพ่อแม่เองก็สามารถทำได้ ควรที่จะฝึกเป็นคนรักการอ่านไปกับลูกด้วยแม้ว่าก่อนนี้พ่อแม่อาจจะไม่ใช่คนที่รักการอ่านมาก่อน

หนังสือเป็นสิ่งที่สอนลูกได้มากแม้จะไม่ได้สอนโดยตรงแต่ก็มีเรื่องราวมากมายที่ลูกจะได้เรียนรู้จากในนั้น อย่าให้ลูกเรียนรู้จากของเล่นสมัยใหม่แต่อย่างเดียว ของเล่นต่างๆ ตามยุคสมัยอาจจะสอนในเรื่องทักษะและไหวพริบแต่หนังสือนั้นสอนในสิ่งที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่ลูกจะเรียนรู้จากเกมการละเล่นต่างๆ ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่

ยกตัวอย่างเช่น นิทานเรื่องเดียวสามารถสอนให้ลูกมีจินตนาการอันบรรเจิดได้ สอนให้ลูกมองเห็นความดี ความชั่ว สอนให้ลูกเห็นความมีน้ำใจ ความอกตัญญู ความเสียสละ ความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม การใช้ไหวพริบ การเอาตัวรอด และข้อสรุปต่างๆ มากมาย
การอ่านหนังสือของชนชาติอื่นก็ยังเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างอื่น และการยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติอื่นด้วย

มันอาจจะทำให้เราแตกฉานในการอ่านหนังสือกับการใช้ภาษาและการเรียนรู้ในเรื่องของการเรียบเรียงเขียนอ่าน ซึ่งเป็นการเล่าเรียนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมที่จะเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ตัวลูกน้อย
ดังนั้นพ่อแม่ควรเห็นความสำคัญของการปลูกฝังให้ลูกเป็นคนชอบอ่าน โดยจะต้องสร้างนิสัยการอ่านที่หลากหลายให้ลูก อย่าจำกัดในเรื่องที่เป็นข้อมูลความรู้แต่เพียงอย่างเดียว ให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายอ่านหนังสือนิทานหรือเลือกหนังสืออ่านเล่นในแนวต่างๆ บ้าง อย่าลืมว่าพ่อแม่ก็ต้องอ่านเป็นเพื่อนลูกเช่นกัน

อันตรายจากรถหัดเดิน


อันตรายจากรถหัดเดิน

หัวกระแทกพื้น

เมื่อได้อยู่ในรถหัดเดินที่เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว เจ้าตัวเล็กจะสนุกกับการโถมตัวไปข้างหน้าและใช้ปลายเท้าถัดไปให้รถเคลื่อนที่ อย่างสนุกสนาน อาจทำให้สะดุดล้มเสียหลักหน้าและศรีษะกระแทกพื้นจนฟกช้ำ และหากรุนแรงอาจทำให้สมองกระทบกระเทือน เป็นอันตรายรุนแรงได้ ซึ่งคุณหมอเด็กหลายคนยืนยันว่าเด็กมาหาหมอด้วยสาเหตุนี้หลายรายเลยทีเดียว บางรายหน้าคว่ำลงไปในอ่างน้ำ หัวร้างข้างแตกก็มี ที่สำคัญเมื่ออยู่ในรถหัดเดิน พบว่าเด็กๆสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลถึง 3 ฟุต ภายในเวลา 1 วินาที และด้วย ความเร็วขนาดนี้แม่คงวิ่งไปช่วยลูกไม่ทันแน่

เท้าถูกหนีบ

อีกอย่างนิ้วเท้าลูกอาจมีโอกาสไปขัดกับล้อหรือถูกทับ โดยเฉพาะในช่วงที่รถคว่ำแล้วเท้าอาจเกิดไปติดกับล้อหรือฐานของรถหัดเดินอาจทำให้นิ้วเท้าของลูกหักหรือร้าวได้ ด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กๆนี่แหละค่ะทำให้หลายต่อหลายประเทศห้ามการใช้รถหัดเดินในประเทศของเขา ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาหรือ อังกฤษ แต่บ้านเรายังไม่มีกฏหมายห้ามออกมาใช้กันพ่อแม่จึงยังใช้กันอยู่โดยไม่รู้พิษภัย

ตกจากที่สูง

อันตรายที่น่ากลัวที่สุดของรถเด็กหัดเดินคือการที่ลูกเล่นอยู่ในรถหัดเดินแล้วพลัดตกลงบันไดหรือที่สูงๆที่ไม่ได้กั้นราวบันไดไว้ อาจอันตรายถึงขั้นคอหัก สมองบอบช้ำ

ลดความสำพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก

อย่างที่บอกว่าพ่อแม่สะดวกจะให้ลูกนั่งในรถหัดเดิน เพราะคิดว่าปลอดภัย ตัวเองทิ้งลูกไว้ได้ ซึ่งนอกจะทำให้เด็เกิดอุบัติเหตุอย่างเราๆรู้กันแล้ว ยังลดความสำพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกด้วย เพราะพ่อแม่จะปล่อยลูกไว้แล้วไปทำอย่างอื่น กลับมาอีกทีลูกก็หลับคารถแล้ว แทนที่พ่อแม่จะได้อุ้ม ได้โอบกอดก็มีเวลาน้อยลง

ลูกไม่ยอมหย่านม

ลูกของดิฉัน 1 ขวบกับ 5 เดือนแล้ว แต่ลูกยังไม่ยอมหย่านมไม่ทราบว่าลูกมีความผิดปกติหรือไม่ค่ะ มีวิธีการใดที่ทำให้ลูกอย่านมได้บ้างไหมค่ะ เพราะดิฉันทำทุกวิถีทางแล้วค่ะ เคยแม้กระทั่งพาลูกไปทิ้งบ้านญาติ เป็นอาทิตย์นั่งฟังแกร้องไห้ทุกคืนแล้วก็ทนไม่ไหวค่ะ ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วยนะคะจะขอบคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ

คุณแม่ มีคุณลูกอายุ 1 ขวบ 5 เดือน ยังไม่ยอมหย่าน้ำนมแม่คุณถามว่าผิดปกติไหม ก็คงไม่ค่อยปกติแต่คุณต้องให้อาหารเสริมให้ครบ 5 หมู่ และน้ำด้วย ลูกก็จะได้ไม่หิวค่ะ และคงคิดถึงนมแม่น้อยลง แต่กลางคืนลูกนอนร้องไห้ทุกคืนเมื่อคุณพาลูกไปไว้บ้านญาติ ลูกคงอยากให้มีคนนอนกอดตอนกลางคืนและดูดนมแม่ด้วย คุณคงต้องใช้วิธีอ่านนิทานให้ฟังตอนกลางคืน ก่อนและให้ลูกนอน โดยไม่ต้องให้ดูดนมจากคุณก็เป็นการฝึกลูกไปด้วยค่ะ ให้ห่างจากแม่ในตอนกลางคืนได้ คุณอาจให้จุกนมยาง ให้ลูกดูดตอนกลางคืน ถ้าลูกร้องไห้มาก ก็ใช้การดูดจุกนมแทนและค่อยๆ ให้เลิกจุกนมยางทีหลังค่ะ ลองดู บางคนก็ทำได้สำเร็จ ขึ้นกับการเลี้ยงดูมาในอดีต ถ้าเขาได้รับการตามใจมาก เขาจะไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้น นอกจากตามใจลูกอย่างเดียว แต่คุณต้องค่อยๆแก้ไขค่ะ

ลูกไม่ยอมทานข้าว


ลูกไม่ยอมทานข้าว
ผมมีลูกชายสองขวบ แต่เขาไม่ค่อยชอบทานข้าวสักเท่าไหร่ วันๆกินแต่นมเป็นอาหารหลัก พอป้อนข้าวไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็ไม่ยอมทาน ทานแต่นม ทั้งนมเปรี้ยวและนมธรรมดา ตอนนี้ผมและภรรยากำลังเครียดกันมาก กลัวเขาจะไม่ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ส่วนอีกเรื่อง บ้านเราชอบดูทีวีมาก ไม่ว่าตรงจุดนี้จะมีปัญหา เกี่ยวกับการพัฒนาการเด็กหรือเปล่าครับ


คุณบอกว่า คุณมีลูกไม่ชอบกินข้าวลองเปลี่ยนเป็นอาหารอื่นๆเช่น ขนมปัง ไข่ดาว ซึ่งไม่ใช่ข้าว เป็นเมนูอาหารของชาวต่างชาติบ้าง ลูกคุณอาจจะกินและชอบเพราะตอนหมอไปอยู่ต่างประเทศเขาถามว่า ถ้าหมอไม่กินข้าวซักสองมื้อ จะตายหรือไม่ ต่างชาติเขาใช้ขนมปังคุณลองปิ้งให้กรอบนอกนุ่มใน อาจจะทำให้ลูกคุณชอบก็ได้ คงจะทำให้คุณและภรรยาเลิกเครียด เพราะการใช้อาหารเสริมให้ลูก เริ่มทีละน้อย อย่างละ 1 อย่าง เพื่อให้รู้ว่าแพ้อาหารชนิดไหน จะได้หยุดอาหารที่สงสัยวันแรกให้ 1-2 คำพอ วันที่ 2 เพิ่มอีก 1 คำ

ควรให้ตอนประมาณ 10 โมงเช้า หรือก่อนเที่ยง เพื่อมีเวลาสังเกตการได้ครึ่งหรือก่อนวันจะดีกว่าในตอนเย็นมีอาการตอนกลางคืน ทำให้วุ่นวายทั้งบ้าน บางคนลูกร้องไห้ทั้งคืนก็ไม่รู้ จำทำอะไรถูก ข้างบ้านก็ตื่นเพราะเสียงเด็กร้องไห้เป็นที่รำคาญของชาวบ้านค่ะ คุณลองขนมปังที่ทำเป็นแท่งๆ เขาก็สามารถหยิบถือเองได้ อาจจะชอบอีกด้วยค่ะ ส่วนการดูทีวี ก็เอาใจเด็กบ้างให้ดูการ์ตูนด้วย เด็กๆก็มีหัวใจค่ะ ซื้อซีดีการ์ตูนไปให้ดูก็จะดีค่ะ คุณเลือกที่มีพัฒนาทางสมองยิ่งดีค่ะ คุณต้องใส่สิ่งดีๆ เข้าในสมองของลูก แล้วลูกจำได้ค่ะ

ลูกคัดจมูกหายใจไม่ออก


ลูกคัดจมูกหายใจไม่ออก

ลูกสาววัย 10 เดือน ปัจจุบันน้ำหนัก 8.4 กก. สูงประมาณ 70 ซม. ลูกมีอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก แต่ไม่มีอาการไอหรือจาม จะเอามือถูจมูกไปมาแสดงอาการหายใจไม่ออก ตอนกลางคืนยิ่งเป็นมากยิ่งนอนดิ้นแบบถูจมูกไปมา ดิฉันพยายามเอาวาเป็กซ์หยด และทาวิกส์ที่หลังหน้าอกตลอด และพยายามไม่ให้บ้านมีฝุ่นจนปัจจุบันต้องหายใจทางปาก คุณหมอลองพิจารณาที่สาเหตุต้องเป็นอย่างนี้ ด้วยค่ะ เคยพาไปหาหมอแล้วคุณหมอให้ยามากินก็กินไปซักพักก็ยังไม่ดีขึ้นเลย

อาการนี้ เป็นอาการของกลุ่มคนแพ้อากาศจนมีเยื่อหุ้มจมูกบวม หายใจไม่สะดวกได้ ซึ่งโดยทั่วๆไปแล้วจะพบได้น้อยมากในเด็กขวบแรกอย่างนี้ คุณแม่ไม่ได้เล่าให้ฟังว่าเป็นมานานเท่าไหร่แล้ว และได้รับการรักษาอย่างไร แต่ในภาพรวมคงจะเป็นเดือน และได้รัปทานยามาบ้างพอสมควรแต่ยังไม่มีอาการดีขึ้น

สาเหตุที่เด็กหายใจไม่ออกมีได้หลายอย่าง แต่ในระยะหลังเราพบว่าสาเหตุที่ไม่ใช่จากปัจจัยภายนอก เช่นพวกฝุ่นละออง หรือเกสรดอกไม้ต่างๆ ที่ปลิวมาทำให้เด็กแพ้อากาศ แต่อาจเป็นจากสิ่งกระตุ้นจากภายในร่างกายที่ลูกได้รับเข้าไปเช่น เด็กบางคนมีอาการแพ้นมวัว หรือจะมีการแพ้อาหารบางตัวที่รัปทาน แต่แทนที่จะออกมาเป็นลมพิษ ท้องเดิน อาจจะ ออกไปในรูปของทางเดินหายใจส่วนบนนี้ก็ได้ เพราะฉนั้นหมอแนะนำว่าคงต้องไปปรึกษากุมารแพทย์กันหน่อยเพื่อให้ลองวิฉัยแยกโรคอีกครั้งหนึ่ง และจะได้ดูแลรักษาให้เหมาะสม ไม่ควรปล่อยไปค่ะ