เรารู้กันดีว่าหนังสือนั้นคือโลกที่กว้างใหญ่ คือแหล่งความรู้ที่ดีเยี่ยมที่สุด แต่เรามักจะไม่ปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านกันอย่างจริงจังเท่าใดนัก
นอกจากอ่านนิทานกล่อมลูกก่อนนอนแล้วหรือสอนให้ลูกๆ หัดอ่านนิทานตอนหัดเข้าเรียนเขียนอ่านนั้นยังไม่พอ พ่อแม่ต้องซื้อหนังสือติดบ้านไว้เสมอ เลือกที่หลากหลายแนวที่เหมาะตามวัยของลูกเพื่อให้ลูกได้มีนิสัยรักการอ่านตามธรรมชาติ เพราะหนังสือมีอยู่ที่บ้านเสมอลูกก็จะหยิบหนังสือมาอ่าน เราต้องจำกัดเวลาลูกอย่าให้ลูกได้มีชั่วโมงของการอ่านหนังสือทุกวันแม้ว่าจะเป็นการ์ตูนบ้าง หนังสืออ่านเล่นบ้างก็ตาม
ตัวพ่อแม่เองก็สามารถทำได้ ควรที่จะฝึกเป็นคนรักการอ่านไปกับลูกด้วยแม้ว่าก่อนนี้พ่อแม่อาจจะไม่ใช่คนที่รักการอ่านมาก่อน
หนังสือเป็นสิ่งที่สอนลูกได้มากแม้จะไม่ได้สอนโดยตรงแต่ก็มีเรื่องราวมากมายที่ลูกจะได้เรียนรู้จากในนั้น อย่าให้ลูกเรียนรู้จากของเล่นสมัยใหม่แต่อย่างเดียว ของเล่นต่างๆ ตามยุคสมัยอาจจะสอนในเรื่องทักษะและไหวพริบแต่หนังสือนั้นสอนในสิ่งที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่ลูกจะเรียนรู้จากเกมการละเล่นต่างๆ ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่
ยกตัวอย่างเช่น นิทานเรื่องเดียวสามารถสอนให้ลูกมีจินตนาการอันบรรเจิดได้ สอนให้ลูกมองเห็นความดี ความชั่ว สอนให้ลูกเห็นความมีน้ำใจ ความอกตัญญู ความเสียสละ ความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม การใช้ไหวพริบ การเอาตัวรอด และข้อสรุปต่างๆ มากมาย
การอ่านหนังสือของชนชาติอื่นก็ยังเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างอื่น และการยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและเชื้อชาติอื่นด้วย
มันอาจจะทำให้เราแตกฉานในการอ่านหนังสือกับการใช้ภาษาและการเรียนรู้ในเรื่องของการเรียบเรียงเขียนอ่าน ซึ่งเป็นการเล่าเรียนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมที่จะเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ตัวลูกน้อย
ดังนั้นพ่อแม่ควรเห็นความสำคัญของการปลูกฝังให้ลูกเป็นคนชอบอ่าน โดยจะต้องสร้างนิสัยการอ่านที่หลากหลายให้ลูก อย่าจำกัดในเรื่องที่เป็นข้อมูลความรู้แต่เพียงอย่างเดียว ให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายอ่านหนังสือนิทานหรือเลือกหนังสืออ่านเล่นในแนวต่างๆ บ้าง อย่าลืมว่าพ่อแม่ก็ต้องอ่านเป็นเพื่อนลูกเช่นกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น